เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ต่อสู้กับ โควิด 19

ในช่วงระยะเวลา 1ปีที่ผ่านมานั้น คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เราทุกคนนั้น ต้องดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เพื่อป้องกันโรค โควิด 19 ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่หน้าการอนามัย การล้างมือด้วยเจลเเอลกอฮอล์ หรือการกินอาหารเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันต่างๆ ให้กับร่างกาย ซึ่งหลายคนก็อาจจะรู้กันอยู่แล้ว ว่าอาหารเเบบไหนนั้น เหมาะสำหรับช่วงโควิดแบบนี้ แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ วันนี้เราจะมีข้อมูลดีๆ มาแบ่งปันกัน

เมื่อพูดถึงอาหารที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สิ่งแรกที่ทุกท่านนึกถึงก็น่าจะมีสารอาหารตัวหนึ่งผุดขึ้นมาในความคิด คือ วิตามินซี ซึ่งจริง ๆ แล้วในแง่มุมทางด้านโภชนาการ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรค สารพิษและสิ่งแปลกปลอมที่เป็นอันตรายต่อร่างกายนั้น คือการที่มีภาวะโภชนาการที่ดี ได้รับพลังงาน สารอาหารหลักทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และสารอาหารรองทั้งวิตามิน A, C, E, D, B6, B9 (โฟเลต), B12 และแร่ธาตุสังกะสี ซีลีเนียม เหล็ก ทองแดง แมกนีเซียม และแมงกานีส รวมทั้งดื่มน้ำสะอาด ที่เพียงพอและสมดุลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการรับประทานอาหารให้ได้รับทั้งสารอาหารหลัก วิตามิน แร่ธาตุ ดังกล่าวที่เพียงพอนั้น เราสามารถได้รับจากแหล่งอาหารจากธรรมชาติ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรับประทานในรูปแบบอาหารเสริมแต่อย่างใด เพราะยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันว่าวิตามินหรือแร่ธาตุตัวไหนจะป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัสได้ แต่เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพและเป็นแนวทางในการเลือกแหล่งอาหารที่ดี มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ขอหยิบยกสารอาหารตัวเด่น ๆ ที่บทบาทต่อภูมิต้านทาน ดังนี้ค่ะ

1. วิตามินซี ช่วยการทำงานของเม็ดเลือดขาวและช่วยกระบวนการทำลายเชื้อโรค โดยความต้องการต่อวันตามข้อกำหนดปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ. 2563 ในเด็กอายุ 1-8 ปี ควรได้รับ 25-40 มิลลิกรัมต่อวัน ในเด็กและวัยรุ่นช่วงอายุ 9-18 ปี ควรได้รับ 60-100 มิลลิกรัมต่อวัน และวัยผู้ใหญ่ อายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไป ควรได้รับ 85-100 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งแหล่งวิตามินซีในอาหารจะอยู่ในผักและผลไม้เป็นส่วนใหญ่ดังที่แสดงในตารางที่ 1 จะเห็นว่าปริมาณการรับประทานต่อวันเพื่อให้ได้รับวิตามินซีที่เพียงพอก็สามารถทำได้จริงในทางปฏิบัติค่ะ

2. วิตามินเอ สารอาหารที่มีส่วนสำคัญในการช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยแหล่งอาหารของวิตามินเอที่สามารถดูดซึมและใช้ประโยชน์ได้สูง คือ พวกเครื่องในสัตว์ นม ไข่แดง นอกจากนี้แหล่งอาหารจากพืชจำพวกผักใบเขียวเข้ม และผลไม้สีเหลืองอย่างตำลึง ผักบุ้ง ฟักทอง มะละกอสุก ก็ดีไม่แพ้กัน

3. สังกะสี มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตและแบ่งเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน รวมทั้งควบคุมการทำงานของเอนไซม์ที่เป็นกลไกหลักในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งแหล่งอาหารที่ดีเมื่อพิจารณาจากปริมาณและการดูดซึมเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ได้แก่ เนื้อสัตว์และเครื่องใน หอยนางรม สัตว์ปีกและปลา และที่รองลงมา ได้แก่ ไข่ นม

4. โปรตีน สารอาหารชนิดนี้อาจจะถูกใจสายที่เน้นควบคุมคาร์บ หรือคนที่รับประทานคีโต ซึ่งโปรตีนนั้นหลายคนอาจไม่รู้ว่าโปรตีนที่มีคุณภาพดีจะมีกรดอะมิโนจำเป็นที่ครบถ้วนต่อร่างกาย ช่วยสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันและสารภูมิคุ้มกันต่างๆ ได้ ซึ่งแหล่งอาหารจากโปรตีนไม่จำเป็นต้องได้รับจากเนื้อสัตว์ ไข่ นม เสมอไป แต่ โปรตีนจากพืช อย่าง ถั่วต่างๆ เมล็ดพืชต่างๆ ก็เป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่ดีได้เช่นกัน

5. จุลินทรีย์สุขภาพ (โพรไบโอติกส์) และอาหารสำหรับจุลินทรีย์สุขภาพ (พรีไบโอติกส์)  ที่ระยะ1- 2 ปีมานี้กำลังเป็นที่นิยมในคอมมูนิตี้ของคนรักสุขภาพ เพราะมีส่วนช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย โดยสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์สุขภาพส่วนใหญ่แล้วอยู่ในแหล่งอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ธัญพืช ข้าวโอ๊ต หอมหัวใหญ่ เป็นต้น ซึ่งหากจะว่าไปแล้วอาหารเหล่านี้มันจะมีกลิ่นค่อนข้างแรง และอาจจะต้องเสียเวลาในการปรุงอาหาร

ทั้งหมดที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้น ก็เป็นเพียงแค่ 1 ในวิธีดูแลตัวเองในช่วงโควิด 19 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม อย่าลืมใส่หน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือกันด้วยนะคะ