โกฐจุฬาลัมพา อาจเป็นอีกหนึ่งสมุนไพรต้านโควิด 19

จากที่เคยได้มีการแนะนำสมุนไพรดีๆ ในช่วงโควิด 19 ไปอย่างหลากหลาย วันนี้ทางเรามีอีกหนึ่งสมุนไพรดีๆ มาเสนอให้ได้รู้จักกัน นั่นคือ โกฐจุฬาลัมพา โดยในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการเผยแพร่งานวิจัย ซึ่งงานวิจัยนี้จัดทำขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Columbia University และ University of Washington สหรัฐอเมริกา เผยแพร่บนวารสาร Journal of Ethnopharmacology ซึ่งได้มีการศึกษาคุณสมบัติในการต้านไวรัส SARS-CoV-2 ต้นเหตุของโรค COVID-19 ในสมุนไพรโกฐจุฬาลัมพาทั้ง 7 สายพันธุ์จาก 4 ทวีปทั่วโลก

โดยในการสกัดสารสำคัญจากสมุนไพร นักวิทยาศาสตร์ใช้วิธีแบบดั้งเดิมคือการแช่ใบโกฐจุฬาลัมพาในน้ำร้อน (คล้ายการทำชา) จากนั้นนำน้ำที่ได้มาใช้ในการกำจัดไวรัส SARS-CoV-2 ที่อยู่ในเซลล์เพาะเลี้ยง ผลปรากฏว่ามันสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสได้ อีกทั้งยังออกฤทธิ์ต่อไวรัส SARS-CoV-2 สายพันธุ์อัลฟา (สายพันธุ์อังกฤษ) และเบต้า (สายพันธุ์แอฟริกาใต้) ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

แม้ว่าจะมีการวิจัยออกมาเช่นนี้ แต่ว่าโดยปกติแล้วแพทย์แผนไทยจะไม่นำโกฐจุฬาลัมพามาใช้เป็นยาแบบเดี่ยว ๆ แต่จะเอามาเข้าตำรับยา เพื่อให้ยามีการออกฤทธิ์ เสริมฤทธิ์กัน ยาบางตัวจะลดพิษยาบางตัวได้

โกฐจุฬาลัมพาถ้านำมาใช้เดี่ยว ๆ หรือเอามาเป็นชาชง ก็ไม่ถูกต้องแล้ว เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ โกฐจุฬาลัมพาต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์แผนไทย เพราะโกฐจุฬาลัมพาเป็นยา ไม่ใช่อาหาร หากกินทุกวัน อาจเกิดโทษได้ ร่างกายเราสบายดีไม่ได้ป่วย แต่เรากลับไปกินยาทั้งที่ร่างกายเราสบายดี ยาที่กินอาจจะทำให้ร่างกายเราทำงานผิดปกติได้

ดังนั้น โกฐจุฬาลัมพา ต้องกินตอนที่ป่วยและไม่สบายเท่านั้น ถ้าประชาชนป่วย มีไข้ แล้วอยากกินยาที่มีส่วนผสมของโกฐจุฬาลัมพา ก็สามารถซื้อยาตำรับจันทน์ลีลามากินลดไข้ได้ ไม่ต้องไปซื้อแบบตากแห้งมาทำยากินเอง เข้าใจว่าสถานการณ์โควิดตอนนี้หลายคนกลัว และคิดว่าโกฐจุฬาลัมพาจะช่วยได้ แต่การเอามาชงน้ำร้อนดื่มทุกวัน จะเป็นอันตราย เพราะร่างกายแต่ละคนทนยาได้ไม่เท่ากัน เรายังไม่รู้ว่าจะเกิดอันตรายกับใคร เพราะยังไม่เคยมีใครกินโกฐจุฬาลัมพาเดี่ยว ๆ และกินทุกวัน

สำหรับใครที่ซื้อมาทานแล้ว ให้สังเกตอาการข้างเคียงหลังจากกิน เพราะหากกินในปริมาณมากติดต่อกัน 3 วัน จะมีอาการพะอืดพะอม คลื่นไส้ มีอาการวิงเวียน มึนงง ถ้าพบอาการเหล่านี้ให้หยุดกินทันที และอาการเหล่านี้จะหายไปภายใน 1-2 วัน

ทั้งนี้ การทดลองดังกล่าวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในเซลล์เพาะเลี้ยง และในขณะนี้ยังไม่มีการศึกษาผลของน้ำจากโกฐจุฬาลัมพาเพื่อใช้ต้านไวรัส SARS-CoV-2 ในมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์จึงยังไม่แนะนำให้ใช้เป็นยาต้านไวรัสในขณะนี้ แม้การทดลองในเซลล์เพาะเลี้ยงจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ แต่กลไกในร่างกายของมนุษย์มีความซับซ้อนมากกว่านั้น บางทีเมื่อคุณดื่มไปสารสำคัญอาจถูกทำลายไปในระหว่างทางเดินอาหาร หรือดื่มน้อยไปอาจไม่ออกฤทธิ์ต้านไวรัสเลย หรือดื่มมากไปอาจส่งผลกระทบต่ออวัยวะในร่างกายได้ด้วย

เพราะฉะนั้นจึงควรรอให้มีการศึกษาผลของสมุนไพรชนิดนี้ในมนุษย์เสียก่อน ซึ่งอาจใช้เวลาในการทดลองสักระยะหนึ่ง อย่างที่หลายคนทราบดีว่าการทดลองวัคซีนจะต้องผ่านขั้นตอนตั้งแต่ทดลองในเซลล์เพาะเลี้ยง ทดลองในสัตว์ ทดลองในคน และทดลองในคนหมู่มาก กว่าจะได้เป็นวัคซีนป้องกัน COVID-19 จนทุกวันนี้ ซึ่งการทดลองของโกฐจุฬาลัมพาก็ต้องผ่านขั้นตอนเหล่านี้เช่นเดียวกัน